อาจจะกล่าวได้ว่าในปัจจุบันนี้การรักษาแบบประคับประคองนั้น ได้กลายมามีบทบาทอย่ามากในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าหลายๆ คนเริ่มเล็งเห็นแล้วว่า ยิ่งรักษาแบบธรรมดามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คนป่วยรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น จะดีกว่าหรือไม่ หากเรานั้นเลือกการรักษาแบบประคับประคองทั้งนี้ก็เพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากให้คนป่วยถึงวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างสงบ อย่างไรก็ดีหากว่าใครที่กำลังจะทำการรักษาบิดามารดา หรือว่าคนในครอบครัว โดยเน้นไปที่การรักษาแบบประคับประคองมาดูกันดีกว่าว่ามีสิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องใดบ้าง 

1.การกินอาหาร 

สิ่งแรกที่จะต้องระมัดระวังก็คือ การให้รับประทานอาหาร โดยปกติแล้วเมื่อผู้ป่วยใกล้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตนั้น   ก็จะมีการกินอาหารไม่ได้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีญาติบางส่วนที่ไม่เข้าใจในหลักการดังที่กล่าวข้างต้นนี้ และมองว่าหากคนป่วยไม่ยอมรับประทานอาหารอะไรเลยจะทำให้เกิดการทรุดหนักมากขึ้นไปอีก แต่ในความเป็นจริงก็คือ การที่คนป่วยปฏิเสธอาหาร ก็ย่อมต้องทำใจยอมรับ เพราะว่าการกินอาหาร โดยที่ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารได้ หรือไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ระบบในร่างกายได้ อาจจะทำให้เกิดผลเสียกับคนป่วยมากกว่า เช่น คนดูแลหรือว่าญาติบางคนให้คนป่วยกินอาหารมากเกินไป ก็ทำให้เกิดอาการแน่นท้องได้ หรือบางคนที่ให้คนป่วยที่ไม่ยอมรับประทานอาหาร มากินอาหารอย่างอาหารทางสายยาง แทนที่จะเกิดประโยชน์ก็กลับเป็นโทษด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าการกินอาหารทางสายยาง มีสิทธิ์ที่จะสำลักอาหาร หรือว่าเกิดติดเชื้อในปอด ปอดอักเสบได้ ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่ หากเรานั้นจะยอมให้คนป่วยกินอาหารเท่าที่ต้องการ และเน้นไปที่อาหารซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย หากว่าผู้ป่วยยังเคี้ยวอาหารได้ ควรเน้นไปที่ผลไม้เช่น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า หรือแก้วมังกร เป็นต้น 

2.การขับถ่าย 

สำหรับคนดูแลบางคน ไม่อยากให้คนป่วยขับถ่ายเลอะเทอะ ซึ่งเรื่องที่เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่าถึงจุดหนึ่งผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นก็ต้องพยายามมองหาวิธีที่ดีที่สุด เช่นการให้ถ่ายในแพมเพิส ซึ่งจะสะดวกกับคนป่วยมากกว่าการสอดสายเข้าไปเพื่อสวนปัสสาวะและอุจจาระ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวด และรู้สึกเหมือนโดนทรมานมากกว่า 

และนี่ก็คือข้อที่ต้องระวังสองข้อ สำหรับคนที่ต้องการให้การดูแลคนป่วย หรือรักษาคนป่วยแบบประคับประคองเกิดผลดีต่อคนป่วยมากที่สุด และญาติเองก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าการที่จะให้คนป่วยถึงวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างมีความสุข คือเป้าหมายของการรักษาแบบนี้